you left wrinkles on my bed sheet
.
.
ปรีดาเพิ่งค้นพบคำว่า internest จากอินเตอร์เน็ต
ความหมายของมันคือ กองขยุกขยุยเหมือนรังอุ่นๆ บนเตียงที่เอาไว้ซุกตัวเวลานอนเล่นอินเตอร์เน็ตทั้งวันทั้งคืน ปรีดาค้นเจอคำนี้ตอนกกไข่ในผ้าห่มนั่นแหละ มันเป็นผ้าห่มกลิ่นตุ่ยๆ ที่ต่อให้ถึงฤดูแดดจัดแบบนี้ เธอก็ตัดใจพาไปผึ่งแดดไม่ได้เสียที พิศวาสอะไรนักหนากับกลิ่นไม่ชวนดมแบบนี้ก็ไม่รู้
ปรีดาใช้ชีวิตอยู่บนเตียงได้นานขึ้น นานขึ้นทุกที
เมื่อก่อนเตียงคือที่นอนอ่านหนังสือ อ่านเช้า-อ่านกลางวัน-อ่านก่อนนอนก็ชอบนอนหงายชูหนังสือบังเงาทุกเวลา คอนโดแคบๆ ไม่มีที่ให้เดินมากนักนี่นา หลังๆ จะดูทีวี ตัดเล็บ ไดร์ผม คุยโทรศัพท์ ก็เกิดขึ้นบนเตียงทั้งนั้น มาถึงจุดเหิมเกริมกำเริบหนักก็ตอนที่เอาขนม ไข่ต้มขึ้นมานอนกระดิกเท้ากินบนเตียง โดยไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องผิดบาปหรือต้องห้ามอีกแล้ว
จนคืนนั้นในตอนฉีกซองซีอิ๊วจะราดไข่ต้ม องศากระฉอกพุ่งเลยด้านนูนๆ ของไข่แดงที่เผยอแย้มรอรับรสเค็มไปยังผ้าปูสีครีมเรียบๆ ที่รอยยับกระจายอยู่ทั่ว การกระเซ็นของซีอิ๊วทำให้เตียงที่ค่อนข้างจะรุงรังด้วยกองหนังสือและผ้าขี้เกียจพับดูพังพินาศขึ้นไปอีกระดับ ปรีดาได้ตระหนักแก่ใจแล้วว่า ผีสางกุลสตรีหรืออะไรก็ตามแต่ที่แปะยี่ห้อสุขอนามัยและนิสัยที่ดีได้ลงโทษเธอด้วยการเพิ่มภาระกลางดึกกลางดื่น แทนที่จะได้นอนขลุกรับวันหยุดสมใจ ปรีดาจำต้องทึ้งผ้าปูออก แช่ผ้าในกะละมังใบโต…
ปรีดากำลังจะซักผ้าอีกแล้ว
ไม่ดีเลย ปรีดาไม่ได้อยากซักผ้าตากลมกลางคืนเสียหน่อย
งั้นเราจะแก้ใหม่
เป็น
…
…
…
.
.
เราเพิ่งรู้จักคำว่า internest เมื่อคืนก่อน
ความหมายของมันคือ กองขยุกขยุยเหมือนรังอุ่นๆ บนเตียงที่เอาไว้ซุกตัวเวลานอนเล่นอินเตอร์เน็ตทั้งวันทั้งคืน เราค้นเจอคำนี้ตอนกกไข่ในผ้าห่มนั่นแหละ มันเป็นผ้าห่มกลิ่นตุ่ยๆ ที่ต่อให้ถึงฤดูแดดจัดแบบนี้ เราก็ตัดใจพาไปผึ่งแดดไม่ได้เสียที พิศวาสอะไรนักหนากับกลิ่นไม่ชวนดมแบบนี้ก็ไม่รู้
เราใช้ชีวิตอยู่บนเตียงได้นานขึ้น นานขึ้นทุกที
เมื่อก่อนเตียงคือที่นอนอ่านหนังสือ อ่านเช้า-อ่านกลางวัน-อ่านก่อนนอนก็ชอบนอนหงายชูหนังสือบังเงาทุกเวลา คอนโดแคบๆ ไม่มีที่ให้เดินมากนักนี่นา หลังๆ จะดูทีวี ตัดเล็บ ไดร์ผม คุยโทรศัพท์ ก็เกิดขึ้นบนเตียงทั้งนั้น มาถึงจุดเหิมเกริมกำเริบหนักก็ตอนที่เอาขนม ไข่ต้มขึ้นมานอนกระดิกเท้ากินบนเตียง โดยไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องผิดบาปหรือต้องห้ามอีกแล้ว
อานุภาพของเตียงเริ่มดึงไม่ให้เราอยากออกไปไหน วันหยุดทีไรก็คิดแค่ว่า ดีจังนะ จะได้นอนขดตัวบนเตียงแบบไม่สนใจเวลา
ถ้าไม่มีหนังน่าสนใจ หรือถ้าไม่ได้นัดเจอใคร ก็คงจะใส่เรื่องบันทึกประจำวันได้แค่ว่า ‘วันนี้เรื่อยเปื่อยอยู่บนเตียงอีกละ’ เท่านี้ จบ.
นอกจากหลับ นอนอ่านหนังสือ กิจกรรมบนเตียงท็อปฮิตติดอันดับ 3 คือการนอนแผ่คิดโน่นนี่เรื่อยเปื่อยนี่ล่ะ
คิดถึงงานค้างๆ พรุ่งนี้ต้องส่งเมล์หาใคร ต้องตามเรื่องอะไรอีกมั้ย
คิดว่าเราไม่ใช่คนประสานงานที่ดีใช่มั้ย ทำยังไงให้กระตือรือร้นกว่านี้ หรือควรจะเลิกดีมั้ย
คิดว่าทำไมเราถึงเกือบลืมว่ามันเป็นวันครบรอบวันที่เขาไม่อยู่
คิดไปถึงอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้าหรือตอนสิ้นเดือน คิดว่าถ้ามีเพื่อนสนิทสักคนนอนข้างๆ เราคงเมาธ์กันสนุกปากแน่ๆ
การนอนแซ่วอยู่บนเตียง คิดโน่นนี่สะระตะ มันเป็นเรื่องที่ดีมั้ย
มนุษย์ควรระบายออกกับใคร หรือถ้าถ้วนถี่ว่ายังไงก็ไร้สาระ ก็ไม่ควรกล้ำกรายออกไปรึเปล่า
ไม่ดีเลย เราไม่ได้อยากเขียนบันทึกแบบนี้ แบบที่อีก 3 เดือนข้างหน้ามาอ่านก็คงคิดว่า เพ้อเจ้ออะไรของเธอ
งั้นเราจะแก้ใหม่
เป็น
…
…
…
leave a comment